Page 45 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 45
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
ความเป็นผู้เข้าใจในการจัดสรรปันส่วน หรือการรักษาบริหารทรัพย์สินสมบัติ การรู้จัก
จัดสรรปนส่วนค�านวณรายจ่ายให้พอเหมาะพอดีกับรายรับดังที่กล่าวมาชื่อว่า “อา”
“อารักขสัมปทา” จึงมีลักษณะคล้าย ๆ กับการสะสมดินของปลวก ปลวกซึ่งเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ
สะสมดินทีละนิด ๆ ติดต่อกันไม่ขาดสาย ที่สุดก็กลายเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ แม้แต่ช้าง
ก็ยังท�าอะไรไม่ได้ ในบทกลอนสุภาษิตสอนหญิงเตือนใจไว้ว่า “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์” นี้คือ “อารักขสัมปทา”
๓. “กะ” มาจากค�าว่า “กัลยาณมิตตตา” คือ มีคนดีเปนมิตรสหาย มนุษย์เรานั้น
จะอยู่ล�าพังคนเดียวหาได้ไม่ จ�าจะต้องร่วมกับคนอื่นในฐานะต่างกัน เช่น ร่วมความคิด
ร่วมกิจกรรม ร่วมผลประโยชน์ การร่วมกับคนอื่นนั้นส�าคัญที่สุด ก็คือ “ร่วมความคิด” ถ้าร่วม
ความคิดกับคนที่ไม่ดี วิถีชีวิตก็ไม่พึงราบรื่น เข้ารกเข้าพงเข้าปาไป เมื่อร่วมคิดกับคนดีวิถีชีวิต
กิจกรรมผลประโยชน์ก็พลอยดีไปด้วย การร่วมคิดกับคนชั่ว ท่านจึงอุปมาเหมือนกับ ใบไม้
ห่อปลาเน่า ตามธรรมดาใบไม้ไม่มีปัญหาอะไร กล่าวคือ ไม่เหม็น แต่ที่เหม็นก็เพราะไปเกี่ยวพัน
กับปลาเน่า ส่วนการร่วมคิดกับคนดี ก็มีอุปมาเหมือนกับ ผ้าที่ห่อกฤษณาหรือของหอม
ตามธรรมดาผ้าไม่ได้หอม แต่เพราะเกี่ยวพันกับของหอม จึงพลอยหอมไปด้วย เรื่องเพื่อน
เรื่องมิตรนี้ จึงมีความส�าคัญเป็นอย่างยิ่ง จะทิ้งก็ไม่ได้ จะขาดก็ไม่ดี เพื่อนหรือมิตรจึงมีอยู่ ๒ ประเภท
ด้วยกัน คือ มิตรแท้กับมิตรเทียม หรือว่า มิตรจอมปลอม มีผลต่อความเสื่อมและความเจริญ
ของการด�ารงชีวิต เมื่อได้กัลยาณมิตร คือ มิตรที่ดี ชีวิตก็ปลอดภัยไร้ปัญหา เมื่อได้มิตรปฏิรูป
คือ มิตรเทียม ชีวิตก็ซูบผอมตรมตรอม ดังนั้น จึงต้องเลือกกันเสียก่อนที่จะสนิทสนมคุ้นเคยร่วม
ความคิด ร่วมกิจการงาน ร่วมผลประโยชน์ โบราณท่านว่า “เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก”
“เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้วแหนงหนี หาง่ายหลายหมื่นมีมากได้ เพื่อนตายถ่ายแทนชีวาอาตม์
หายากฝากผีไข้ยากแท้จักหา” เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะคบควรพิจารณาให้ถ้วนทั่ว อย่างที่โบราณ
ท่านกล่าวไว้ว่า “คบคนให้ดูหน้า ดูทั้งหน้านอก ดูทั้งหน้าใน ดูทั้งหน้าที่ จึงจะรู้ว่าเปน
กัลยาณมิตรที่แท้” นี้คือค�าว่า “กะ” “กัลยาณมิตตตา”
๔. “สะ” มาจากค�าว่า “สมชีวิตา” คือ เลี้ยงชีวิตพอสมควรแก่ก�าลังทรัพย์
ที่หามาได้ ข้อนี้มีหลักค�าสอน คือ เรื่องมาจากสุภาษิตสอนหญิงว่า “มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไลซื้อ ให้เปนมื้อเปนคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดรันทดใจ” เพราะฉะนั้น ญาติโยมทั้งหลาย
เมื่อต้องการสิ่งใด ก็ควรค�านึงถึงก�าลังทรัพย์ ความจ�าเป็นและประโยชน์จากสิ่งนั้น ๆ ไม่ควร
39