วัดพระแก้ว

  • ข้อมูลทั่วไป
ชื่อวัดพระแก้ว
ที่อยู่๑ หมู่ ๑๔
โทรศัพท์๐ ๕๓๗๑ ๘๕๕๕
โทรสาร
จังหวัดเชียงราย
อำเภอเมืองเชียงราย
ตำบลเวียง

             วัดพระแก้วเป็นวัดที่เก่าแก่ และมีความสำคัญวัดหนึ่ง สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน เดิมมีชื่อว่า ญรุกขวนาราม  ซึ่งแปลว่า  วัดป่าญะ  หรือ วัดป่าเยี๊ยะ  สร้างมาก่อนพุทธศักราช ๑๙๗๗ ขึ้นไป บริเวณวัดนี้จะมีไม่ไผ่ชนิดหนึ่งชื่อไม้ญะ คล้ายไม้ไผ่สีสุก แต่ไม่มีหนาม คงจะมีมากในบริเวณนี้ ชาวบ้านสมัยก่อนนิยมนำไปใช้เป็นไม้คันธนูและหน้าไม้ จึงได้ตั้งชื่อตามลักษณะภูมิประเทศว่า วัดป่าญะ  หรือ  วัดญาเยี๊ยะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:office" />

ต่อมาเมื่อพุทธศักราช ๑๙๗๗ พระเจดีย์วัดป่ายะถูกอสนีบาต (ฟ้าผ่า) พังทลายลงพบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ครั้งแรกเข้าใจว่า เป็นพระพุทธรูปธรรมดาจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานในพระวิหาร ต่อมาปูนที่พอกองค์พระไว้กะเทาะออก ทำให้เห็นแก้วสีเขียวงดงามยิ่ง จึงได้กะเทาะหมดทั้งองค์ ปรากฏเป็นพระพุทธรูปแก้วเขียวเป็นแท่งทึบต่อมาได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้จังหวัดลำปาง เชียงใหม่ กรุงศรีสัตตนาคนหุต (เวียงจันทร์) จนกระทั่งเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑) ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรีและกรุงเทพมหานครตามลำดับ

สำหรับวัดป่าญะ หลังจากได้พบพระแก้วมรกต เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๒๐ แล้วนั้น ประชาชนทั่วไปได้ขนานนามว่า  วัดพระแก้ว มาจนถึงปัจจุบัน

การปฎิสังขรณ์วัดพระแก้ว นับตั่งแต่ พุทธศักราช ๒๔๒๐ มีครูสมณะโสภณะ เป็นเจ้าอาวาสได้ทำการบูรการปฎิสังขรณ์วัดมาให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ จนได้รับการประกาศเกียรติคุณยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาจาก กรมการศาสนา เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๑๙ และต่อมาได้รับพระราชทานโปรดให้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญตั้งแต่วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑

สถานะและที่ตั้งวัด

                วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ  ตั้งอยู่เลขที่ ๑ หมู่ที่ ๑๙ ถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย  ที่ดินตั้งวัด  มีเนื้อที่  ๖  ไร่  ๒  งาน  ๖๐  ตารางวา

สิ่งสำคัญในพระอาราม

พระประธาน  ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระแก้วเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง  ๒  เมตร สูงจากเกตุถึงยอดพระรัศมี ๒.๘๐ เมตร รอบพระเศียร ๑.๖๐  เมตร นั่งขัดสมาธิราบ พระรัศมีเป็นลักษณะมีดอกบัวตูมอยู่ในเปลวเพลิง ชายสังฆาฏิสั้นเหนือรายพระถัน เม็ดพระศกใหญ่พระหนุเป็นปมใหญ่และชัดมาก พระพุทธรูปองค์นี้แต่เดิมเป็นของวัดล้านทอง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ต่อมามีสภาพเป็นวัดร้างจึงถูกรื้อไป ต่อมาได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดดอยงำเมือง หรือดอยงามเมือง ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดพระแก้ว เมื่อวัดพฤหัสบดี ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ ซึ่งคนเชียงรายนิยมเรียกกันว่า  พระเจ้าล้านทอง  พระอุโบสถสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช๒๔๓๓ มีขนาดกว้าง ๙.๕๐ เมตร ยาว ๒๑.๘๕ เมตร เดิมเป็นพระวิหาร ต่อมาได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๙๕

ต่อมาได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่       โดยครั้งที่ ๑    พุทธศักราช ๒๕๐๓ ๒๕๐๕     ในสมัยพระพุทธวงศ์วิวัฒน์(วงศ์ ทานวโส) เป็นเจ้าอาวาส นาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:smarttags" />หมัด ไชยา เป็นช่างผู้ควบคุมการก่อสร้าง ประกอบพิธีปอยหลวงสมโภชเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๐๕  และครั้งที่ ๒  พุทธศักราช๒๕๔๓-๒๕๔๕ โดยเปลี่ยนกระเบื้อง กะเทาะปูนเก่าออกฉาบปูนใหม่ลงรัก ปิดทอง เปลี่ยนช่อฟ้าใบระกา บานประตู หน้าต่างลวดลายภายในเป็นไม่สักทั้งหมด โดยควบคุมการก่อสร้างของพระเทพรัตนมุนี เจ้าอาวาส และนายนภดล อิงควนิช

พระเจดีย์  เป็นสถานที่ค้นพบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)  เมื่อปีพุทธศักราช๑๙๗๗ เป็นพระเจดีย์ฐานรูปแปดเหลี่ยมแต่ละเหลี่ยมกว้าง ๕.๒๐  เมตร วัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้  ๙.๕๐ เมตร เมื่อครั้งท่านเจ้าคุณพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์เป็นเจ้าอาวาสได้มีการขออนุญาตกรมศิลปากรบูรณะและห่อหุ้มทองแผ่นทองแดง ลงรักปิดทองทั้งองค์ สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมาเป็นประธานพิธียกฉัตรพระเจดีย์ เมื่อวันที่  ๒๖ พฤศจิกายน  ๒๕๔๑  อาคารสมเด็พระพุทธชินวงศ์เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์งานสมโภชน์สมณศักดิ์เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวัณณโชตมหาเถร) ปฐมสมเด็จของล้านนาเป็นอาคารค.ส.ล. ๔  ชั้น ขนาดกว้าง  ๒๕  เมตร ยาว ๔๐ เมตร วางศิลาโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๓ เวลา ๐๗.๐๙ น. เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๓๓ เสร็จเมื่อปีพุทธศักราช๒๕๓๘

หอพิพิธภัณฑ์ อาคารแสงแก้ว   เป็นอาคาร ค.ส.ล. ประกบด้วยไม้ทั้งภายในภายนอก สูง ๒ ชั้น     ทรงล้านนา ขาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๓.๒๕ เมตร สำหรับเป็นหอพิพิธภัณฑ์ประจำวัดพระแก้ว เริ่มสร้างเมื่อวันที่ ๖  พฤศจิกายน ๒๕๓๘  วางศิลาฤกษ์ โดยคุณแม่อมรา(แสงแก้ว)มุนิกานนท์ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๑ และบำเพ็ญกุศลถวายทานเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๓ อันเป็นโอกาสมงคลอายุครบ ๗ รอบ ของคุณแม่อมา ซึ่งคุณแม่อมรา มุนิกานนท์ ได้บริจาคสร้างถวายทั้งหมด

พระพุทธรตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล  เป็นพระพุทธรูปหยกหน้าตักกว้าง  ๔๗.๙  ซม.  สูง  ๖๕.๙  ซม.  สร้างด้วยหยกจากประเทศแคนนาดา(มร.ฮูเวิร์ด โล ผู้บริจาค) แกะสลักโดยโรงงานหยกวาลินนาน มหานครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน  เพื่อเป็นองค์แทนพระแก้วมรกต เพราะพระแก้วมรกตได้ถูกค้นพบ ณ พระเจดีย์วัดพระแก้วเป็นแห่งแรก(พุทธศักราช๑๙๗๗) และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานนามถวายว่า พระพุทธรตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล แปลว่าพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นอากรแห่งรัตน เป็นมงคลอนุสรณ์ ๙๐ พรรษาและโปรดเกล้าให้เรียกนามสามัญว่า พระหยกเชียงราย

หอพระหยกเชียงราย  วัดในภาคเหนือสมัยโบราณ นอกจากจะมีอุโบสถ วิหาร ศาลา กุฏิ หอพระธรรม ฯลฯ แล้วยังมี  หอพระสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป  วัดพระแก้วจึงจัดสร้าง  หอพระหยกเชียงราย  เป็นอาคารทรงแบบล้านนาโบราณเป็นอาคารค.ส.ล. ประกบด้วยไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๒ เมตร วางศิลาฤกษ์ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุธชินวงศ์ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๔  เมื่อทำการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมาเป็นประธานเปิดหอพระหยกเชียงรายเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

ปิด